หลักเกณฑ์ วิธีการ ในการยื่นคำขอ
1.ผู้รับโอนจะต้องเป็นคนต่างด้าวซึ่งมีฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกที่เป็นเจ้าของที่ดินและหรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีชื่อปรากฏในหลักฐานโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข.)
2.กรณีคนต่างด้าวขอรับมรดกที่ดินหรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้จดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกไว้แล้วในหลักฐานโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข.) และมีความประสงค์ขอโอนมรดกไม่ต้องประกาศ แต่หากขอรับมรดกโดยตรงเนื่องจากไม่มีผู้จัดการมรดกต้องประกาศตามกฎหมายเป็นเวลา 30 วัน
3. ที่ดินที่ขอรับมรดกเมื่อรวมกับที่ดินซึ่งมีอยู่เดิม (ถ้ามี) จะต้องไม่เกินสิทธิที่จะพึงมีได้ตามมาตรา 87 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ดินส่วนที่เกินต้องจำหน่ายในเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี
4. พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนสิทธิและความสามารถ ตลอดจนความเป็นทายาทของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
5. ขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการเป็นไปตามกระบวนงานขอจดทะเบียนประเภทโอนมรดก โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อนจึงจะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทดังกล่าวได้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบอำนาจการสั่งอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าว ดังนี้
- กรณีที่ดินตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครให้อธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน
- กรณีที่ดินอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน
- กรณีที่เห็นว่าไม่ควรอนุญาต ให้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณาสั่งการ
6. คนต่างด้าวเมื่อได้รับอนุญาตให้รับมรดกแล้วหากจะจำหน่ายที่ดินต้องขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน
เอกสารหลักฐาน
- หลักฐานสำหรับที่ดิน / สิ่งปลูกสร้าง (ต้นฉบับ)
ได้แก่ โฉนดที่ดิน/หนังสือรับรองการทำประโยชน์ / หลักฐานการเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง
- หลักฐานสำหรับผู้โอน (ต้นฉบับพร้อมสำเนารับรองความถูกต้อง) เช่น
1.มรณบัตรหรือหลักฐานการตายของเจ้ามรดก
2.พินัยกรรมต้นฉบับ (ถ้ามี)
3.สำเนาพินัยกรรมที่เคยนำไปแสดงต่อหน่วยงานราชการ เช่น ศาล หรือสำนักงานที่ดินอื่น และ พนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นได้รับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีพินัยกรรมสูญหายหรือถูกทำลาย)
4.บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้จัดการมรดก (ถ้ามี)
5.ใบเปลี่ยนชื่อตัว/ชื่อสกุล ของเจ้ามรดกและผู้จัดการมรดก (ถ้ามี)
6.คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาซึ่งแต่งตั้งผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก (ถ้ามี)
- หลักฐานสำหรับคนต่างด้าวผู้รับโอน (ต้นฉบับ พร้อมสำเนารับรองความถูกต้อง) เช่น
1. หลักฐานเกี่ยวกับคนต่างด้าว
1) ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวออกให้โดยสถานีตำรวจท้องที่ที่คนต่างด้าวมีภูมิลำเนาอยู่ หรือ
2) หนังสือเดินทางแสดงสัญชาติของคนต่างด้าว หรือ
3) หนังสือรับรองของเจ้าหน้าที่พนักงานกงสุลหรือสถานทูตที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ หรือ
4) หนังสือแสดงสัญชาติ ( Emergency Certificate) ซึ่งกระทรวงต่างประเทศออกให้เป็นการชั่วคราว
2. สำเนาทะเบียนบ้านผู้ขอรวมทั้งผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวทุกคน (ถ้ามี)
3. ทะเบียนสมรส (กรณีขอรับมรดกในฐานะคู่สมรสของเจ้ามรดก)
4. ทะเบียนสมรสระหว่างบิดามารดาเจ้ามรดก (กรณีขอรับมรดกในฐานะบิดาของเจ้ามรดก)
5. หลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม (กรณีผู้ขอเป็นบุตรบุญธรรมของเจ้ามรดก)
ขั้นตอนการดำเนินการ
ขั้นตอนที่ 1 ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ เบื้องต้นและรับบัตรคิวตามลำดับก่อนหลัง
ขั้นตอนที่ 2 วันยื่นคำขอ : สอบสวน/ทำคำขออนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดิน (แบบ ต.1) และบันทึกถ้อยคำผู้ขอรับมรดกที่ดินในฐานะทายาทโดยธรรมตามที่กฎหมายและระเบียบกำหนด/ชำระเงินค่าคำขอค่าประกาศ/แจ้งผู้ขอทราบขั้นตอนการขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคืนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
กรณีโอนที่ดินมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3/น.ส. 3 ข.) หรือโอนเฉพาะ สิ่งปลูกสร้างต้องประกาศมีกำหนด 30 วัน (เพิ่มขั้นตอนและระยะเวลา จัดทำประกาศ/ส่งประกาศ และปิดประกาศรวมอีก 40 วัน หากไม่มีผู้โต้แย้งคัดค้าน เจ้าหน้าที่ทำหนังสือแจ้งผู้ขอมาดำเนินการ เพื่อจดทะเบียน)
ขั้นตอนที่ 3 ขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย : สำนักงานที่ดินดำเนินการขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อมีคำสั่งอนุญาตแล้วสำนักงานที่ดินมีหนังสือแจ้งผู้ขอทราบและนัดวันจดทะเบียน
ขั้นตอนที่ 4 วันจดทะเบียน : เสนอเจ้าพนักงานที่ดินพิจารณาสั่งจดทะเบียน/ชำระเงิน/ลงนามรับทราบการจดทะเบียน/เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียน และแจกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ผู้ขอ
ระยะเวลาดำเนินการ
ค่าธรรมเนียม ค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าอากรแสตป์
