ประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง

เรื่อง  กำหนดนโยบายการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

                                                  ---------------------------                                                

                        อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (1)   แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน    พ.ศ.2543    คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง  จึงกำหนดนโยบายการจัดสรรที่ดินเพื่อให้คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกรุงเทพมหานครและคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดใช้เป็นเกณฑ์ในการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  และการพิจารณาเกี่ยวกับคำขออนุญาตทำการ   จัดสรรที่ดินไว้  ดังนี้

                        1.  ขนาดของโครงการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้พิจารณาจากจำนวนที่ดิน   ที่ทำการรังวัดแบ่งเป็นแปลงย่อยเพื่อจัดจำหน่ายและจำนวนเนื้อที่  โดยแบ่งเป็น  2  ขนาด คือ

                              1.1  ขนาดเล็ก จำนวนแปลงย่อยไม่เกิน 79  แปลง หรือเนื้อที่ไม่เกิน 500 ไร่

                              1.2  ขนาดใหญ่จำนวนแปลงย่อยตั้งแต่  80  แปลงขึ้นไป  หรือเนื้อที่เกินกว่า  500 ไร่

                        2.  การจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่ดินแปลงย่อยต้องมีเนื้อที่แต่ละแปลง   ไม่ต่ำกว่า   2  ไร่  โดยมีเนื้อที่ใช้ในการทำเกษตรกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ  90  ของพื้นที่แปลงย่อย

                        3.  ระบบและมาตรฐานของถนนประเภทต่าง ๆ ในที่ดินจัดสรรทั้งหมด รวมทั้งการต่อเชื่อมกับถนนหรือทางสายนอกที่ดินจัดสรร

                              3.1  ขนาดของถนนที่ต้องจัดให้มีในการจัดสรรที่ดินแต่ละโครงการให้มี   ความกว้างของเขตทางและผิวจราจร  ดังนี้
                                      (1)  ถนนที่ใช้ในโครงการขนาดเล็ก
                                  -  ถนนสายหลักต้องมีความกว้างของเขตทางไม่ต่ำกว่า  10.00   เมตร  โดยมีความกว้างของผิวจราจรไม่ต่ำกว่า  8.00  เมตร
                                   - ถนนสายรองต้องมีความกว้างของเขตทางไม่ต่ำกว่า  8.00  เมตร      โดยมีความกว้างของผิวจราจรไม่ต่ำกว่า  6.00  เมตร  ทั้งนี้  ขนาดความกว้างดังกล่าวให้ใช้สำหรับรองรับที่ดินแปลงย่อย  จำนวนไม่เกิน  10  แปลง
   ถ้าเกิน 10 แปลง  ให้ถือว่าเป็นถนนสายหลัก

                                        (2)  ถนนที่ใช้ในโครงการขนาดใหญ่                                    
                                                 -  ถนนสายหลักต้องมีความกว้างของเขตทางไม่ต่ำกว่า  12.00  เมตร  โดยมีความกว้างของผิวจราจรไม่ต่ำกว่า  8.00  เมตร
                                                 -  ถนนสายรองต้องมีความกว้างของเขตทางไม่ต่ำกว่า     8.00  เมตร  โดยมีความกว้างของผิวจราจรไม่ต่ำกว่า 6.00  เมตร  ทั้งนี้  ขนาดความกว้างดังกล่าวให้ใช้สำหรับรองรับที่ดินแปลงย่อย  จำนวนไม่เกิน  10  แปลง   ถ้าเกิน 10 แปลงให้ถือว่าเป็นถนนสายหลัก  

                              3.2  ถนนที่เป็นทางเข้าออกของโครงการจัดสรรที่ดินที่บรรจบกับทางหลวงแผ่นดิน หรือทางสาธารณประโยชน์  ต้องมีความกว้างของเขตทางไม่น้อยกว่าเกณฑ์กำหนดตาม  ข้อ 3.1  นอกจากจะมีเกณฑ์บังคับเป็นอย่างอื่น

                        4.  ระบบการระบายน้ำ การบำบัดน้ำเสียและการกำจัดขยะสิ่งปฏิกูล

                              4.1  ระบบการระบายน้ำ และการบำบัดน้ำเสียให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่จะพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพท้องที่

                              4.2  ระบบบำบัดน้ำเสียที่จัดให้มี  ต้องมีประสิทธิภาพ  และสามารถบำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพน้ำทิ้งได้เกณฑ์มาตรฐานตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด

                              4.3  ระบบการกำจัดขยะสิ่งปฏิกูลให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของท้องถิ่นในกรณีไม่มีข้อบัญญัติของท้องถิ่นใช้บังคับให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่จะพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพท้องที่

                        5.  แหล่งน้ำ  ผู้จัดสรรที่ดินจะต้องจัดหาแหล่งน้ำ  ที่มีคุณภาพเหมาะสมเพื่อใช้ในการจัดสรรที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมแต่ละประเภทให้เพียงพอ ตามความจำเป็นถ้าหากแหล่งน้ำจากธรรมชาติหรือแหล่งน้ำจากชลประทานไม่เพียงพอ  ให้จัดหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อให้มีน้ำใช้เพื่อเกษตรกรรมได้ตลอดปี

                        6.  ระบบการส่งน้ำ  ผู้จัดสรรที่ดินจะต้องจัดให้มีระบบการส่งน้ำผ่านที่ดินแปลงย่อยทุกแปลง  และต้องแสดงรายละเอียดของระบบส่งน้ำให้คณะกรรมการพิจารณา

                        7.  ผู้จัดสรรที่ดินจะต้องกันพื้นที่ไว้เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน  เช่น  พื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร  หรือการสันทนาการ  ฯลฯ  โดยคำนวณจากพื้นที่   จัดจำหน่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ  2  ทั้งนี้ไม่ให้แบ่งแยกเป็นแปลงย่อยหลายแห่ง  เว้นแต่เป็นการกันพื้นที่แต่ละแห่งไว้ไม่ต่ำกว่า  4  ไร่

                        8.  การออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  และการพิจารณาเกี่ยวกับคำขออนุญาตทำการจัดสรรที่ดินต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม  กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง  เป็นต้น

                        9.  ข้อกำหนดนี้ไม่ให้ใช้บังคับเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ได้    จดทะเบียนแบ่งแยกเป็นแปลงย่อยไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543  ใช้บังคับ

                       

                        ทั้งนี้  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

                                                ประกาศ    วันที่   17  พฤศจิกายน   พ.ศ. 2546

                                                                              ศิวะ    แสงมณี

                                                                          (นายศิวะ  แสงมณี)
                                                                     รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
                                                                             หัวหน้ากลุ่มภารกิจ
                                                              ประธานกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง