กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๑๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑. ผู้ใดมีความประสงค์จะขอสัมปทานเพื่อกระทำกิจการอย่างใด ๆ ในที่ดิน ให้ทำเรื่องราวตามแบบ ท.ด. ๗๓ ท้ายกฎกระทรวงนี้ ยื่นต่อนายอำเภอท้องที่รวมห้าชุด พร้อมด้วยแผนที่ที่ดินสิบชุด ในกรณีขอสัมปทานที่ดิน ซึ่งถูกกันออกจากที่ดินที่ทางราชการไม่ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ผู้ขอสัมปทานจะต้องเป็นผู้ซึ่งได้ครอบครองที่ดินนั้น ข้อ ๒. แผนที่ที่ดินตามข้อ ๑ ให้แสดงเขตที่ดินและภูมิประเทศในบริเวณที่ขอสัมปทาน มีรัศมีห่างจากเขตที่ดินออกไปด้านละอย่างน้อย ๓๐๐ เมตร และให้แสดงว่ามีสิ่งปลูกสร้าง พืชพันธุ์ไม้หรือทรัพยากรอันมีค่าอย่างใดบ้างหรือไม่กับให้แสดงแผนผังที่จะใช้ที่ดินนั้นกระทำกิจการโดยละเอียด ข้อ ๓. เมื่อได้รับเรื่องราวตามข้อ ๑ ให้นายอำเภอท้องที่ปิดประกาศ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินสาขา ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอท้องที่ ที่บ้านกำนัน และในที่เปิดเผยในบริเวณที่ดินนั้น เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน เมื่อครบกำหนดแล้ว จะมีผู้คัดค้านหรือไม่ก็ตาม ให้นายอำเภอสอบสวนพิจารณาเรื่องราวเสนอความเห็นไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเสนอความเห็นไปยังรัฐมนตรีเพื่อสั่งการต่อไป ข้อ ๔. การให้สัมปทานที่ดินนั้น ให้รัฐมนตรีอนุญาตต่อเมื่อ (๑) ผู้ขอมีความประพฤติดี (๒) ผู้ขอมีความสามารถและมีปัจจัยที่จะกระทำกิจการที่ได้รับสัมปทานให้เป็นผลสำเร็จได้ (๓) ที่ดินที่จะอนุญาตสมควรกับกิจการที่ขอสัมปทานและไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่เศรษฐกิจของประเทศ ไม่ขัดต่อสาธารณประโยชน์ และไม่เป็นอันตรายแก่ทรัพย์สิน หรือขัดต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ข้อ ๕. รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขใดๆ ไว้ ในสัมปทานและกำหนดอายุสัมปทานตามที่เห็นสมควรแก่กิจการนั้น แต่ไม่เกินห้าสิบปี ในกรณีที่จะให้สัมปทานแก่ผู้ใดเกินยี่สิบปี ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อนเป็นราย ๆ ไป สัมปทานบัตรให้จัดทำเป็นสี่ฉบับ เก็บรักษาไว้ที่กรมที่ดินหนึ่งฉบับ จังหวัดและอำเภอท้องที่แห่งละหนึ่งฉบับ และให้ผู้รับสัมปทานถือไว้หนึ่งฉบับ ข้อ ๖. ถ้าผู้รับสัมปทานไม่มีความประสงค์จะกระทำกิจการที่ได้รับสัมปทานต่อไป ก็ให้ยื่นเรื่องราวต่อรัฐมนตรีโดยผ่านนายอำเภอท้องที่ตามลำดับและให้สัมปทานนั้นสิ้นอายุนับแต่วันที่รัฐมนตรีอนุมัติ ข้อ ๗. ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานเป็นบุคคลธรรมดา เมื่อผู้รับสัมปทานถึงแก่กรรม ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียคนใดมีความประสงค์จะถือสัมปทานนั้นต่อไป ให้ยื่นเรื่องราวต่อรัฐมนตรี ผ่านนายอำเภอท้องที่ตามลำดับ ภายในกำหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ผู้รับสัมปทานถึงแก่กรรม ถ้าไม่มีผู้ใดยื่นเรื่องราวภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ถือว่าสัมปทานนั้นสิ้นอายุในวันที่ครบกำหนดเก้าสิบวัน ข้อ ๘. ถ้าผู้รับสัมปทานมีความประสงค์จะโอนสัมปทานให้แก่ผู้อื่น ให้ผู้โอนและผู้รับโอนยื่นเรื่องราวต่อรัฐมนตรี โดยผ่านนายอำเภอท้องที่ตามลำดับ เมื่อรัฐมนตรีพิจารณาเห็นสมควรก็อนุญาตให้โอนได้ ผู้รับโอนย่อมได้รับช่วงสิทธิและหน้าที่กิจการของสัมปทานนั้นต่อไปเท่าที่ผู้รับสัมปทานเดิมมีอยู่ ให้ไว้ ณ วันที ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ (ลงชื่อ) พลโท ป. จารุเสถียร (ประภาส จารุเสถียร) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๔ ตอนที่ ๑๑๐ (ฉบับพิเศษ) ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๐๐) หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้สัมปทาน ให้หรือให้ใช้ที่ดินของรัฐ ซึ่งมิได้มีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง
ท.ด. ๗๓ เรื่องราวขอสัมปทาน ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เขียนที่ ........................................................... วันที่ ..................... เดือน ..................................... พ.ศ. .......................
ข้าพเจ้า
...........................................................
เกิดวันที่ ............. เดือน
.................................. พ.ศ. .......................
ข้อ ๑. ที่ดินของรัฐที่ขอสัมปทานตั้งอยู่ที่
........................................................หมู่ที่
...............................................
ทิศเหนือ
จด ....................................................
ยาวประมาณ
...................................................... มีเนื้อที่ประมาณ
................................. ไร่ ...........................
งาน ...................................... วา
ดังปรากฏตามแผนที่ซึ่งได้แนบมา ข้อ ๒. ข้าพเจ้ามีโครงการและวิธีการประกอบด้วยเหตุผลดังแนบมาพร้อมกับเรื่องราวนี้ (ในโครงการให้แสดงทุนและเครื่องอุปกรณ์อันเป็นปัจจัยในการประกอบกิจการเครื่องจักรทุ่นแรงมีอะไรบ้าง เท่าใด และจำนวนกรรมการซึ่งใช้ในการดำเนินงานเท่าใดด้วย) ข้อ ๓. ข้าพเจ้ามีอาชีพปัจจุบันคือ ........................................................................................................................ ข้อ ๔. ข้าพเจ้ามีหลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้
(๑)
.......................................................................................
ราคาประมาณ
......................................................
ข้อ ๕.
เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกบ้างหรือไม่
ตั้งแต่เมื่อใดเว้นแต่ความผิดที่เป็นลหุโทษ
หรือความผิดที่มีกำหนดโทษชั้นลหุโทษ
หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
ข้อ ๖.
เคยขอสัมปทานเพื่อกระทำกิจการอย่างใด
ๆ มาก่อนหรือไม่
และเคยทำผิดเงื่อนไขในการขอสัมปทานประการใด ข้อ ๗. นอกจากค่าธรรมเนียมตามกฎหมายแล้ว ข้าพเจ้ายินยอมเสียค่าเช่าที่ดิน ค่าจัดหาผลประโยชน์ ตามที่จะได้ตกลงกันกำหนดไว้ในสัมปทาน
ลงชื่อ ....................................................... ผู้ยื่นเรื่องราว ลงชื่อ ....................................................... พยาน ลงชื่อ ....................................................... พยาน ความเห็นนายอำเภอ
............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ .................................................................................... นายอำเภอ ................................................................. ความเห็นผู้ว่าราชการจังหวัด
............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ .................................................................................... ผู้ว่าราชการจังหวัด...................................................... ค่ำสั่งรัฐมนตรี
............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ .................................................................................... รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บันทึกของเจ้าหน้าที่ ได้ออกสัมปทานบัตรที่ / ลงวันที่........................ เดือน.................................................พ.ศ. ................................... ลงชื่อ .................................................................................... ตำแหน่ง ...................................................................
|